วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สุขภาพ

สุขภาพคืออะไร?



     "สุขภาพ" คือสภาวะร่างกายที่สมบูรณ์พร้อมทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคมของบุคคลหรือความปลอดภัยไม่มีโรคภัยทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
 การที่ดูว่าเรานั้นมีสุขภาพที่ดีหรือไม่นั้นดูได้จากการที่ว่า 







ทางร่างกาย ต้องมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง คล่องแคล่ว มีกำลัง ไม่เป็นโรค ไม่พิการ ไม่มีอุบัติเหตุอันตราย 
ทางจิตใจ ต้องมีจิตใจที่ร่างเริงแจ่มใส มีแง่คิดในเชิงบวก มีสติและมีสมาธิ
ทางด้านสังคม ต้องมีครอบครัวที่อบอุ่น สภาพสังคมแวดล้อมดี คือไม่เป็นแหล่งมั่วสุมของสิ่งอบายมุขต่างๆ



 สุขบัญญัติ 10 ประการ

สุขบัญญัติ 10 ประการ คือ ข้อกำหนดที่เด็ก และเยาวชน รวมทั้งประชาชนทั่วไป ควรปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอจนเป็นนิสัย เพราะผู้ที่ปฏิบัติตาม สุขบัญญัติ 10 ประการ จะเป็นคนมีสุขภาพดี ทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม ซึ่งจะส่งผลให้มีสุขภาพแข็งแรง มีสมรรถภาพในการเรียน การทำงาน และ สุขบัญญัติ 10 ประการ  ยังช่วยให้มีภูมิต้านทานโรค ไม่เจ็บป่วยง่าย ๆ ด้วย โดย สุขบัญญัติ 10 ประการ หรือ สุขบัญญัติแห่งชาตินี้ รัฐบาลได้ประกาศให้ดำเนินการและเผยแพร่ในวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ.2539 ดังนั้นจึงได้กำหนดให้ทุกวันที่ 28 พฤษภาคม เป็น "วันสุขบัญญัติแห่งชาติ" อีกด้วย 

สุขบัญญัติ 10 ประการ ประกอบไปด้วย

     1.ดูแลรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาด 
     2.รักษาฟันให้แข็งแรง และแปรงฟันทุกวันอย่างถูกวิธี 
     3.ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารและหลังการขับถ่าย
     4.กินอาหารสุก สะอาด ปราศจากสารอันตราย และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด สีฉูดฉาด
     5. งดบุหรี่ สุรา สารเสพย์ติดการพนันและการสำส่อนทางเพศ
     6. สร้างความสำพันธ์ภายในครอบครัวให้อบอุ่น
     7. ป้องกันอุบัติภัยด้วยการไม่ประมาท
     8. ออกกำลังกายสมำเสมอและตรวจสุขภาพประจำปี
     9. ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ
   10. มีสำนึกต่อส่วนรวม ร่วมสร้างสรรค์สังคม



เคล็ดสุขภาพ


วิธีดูแลตัวเองเมื่อต้องเดินตากฝน


วิธีการดูแลรักษากรณีเดินลุยฝน 

 1. เริ่มต้นจากการทำเสื้อผ้าให้แห้งสนิท โดยเร็ว
 2. เมื่อกลับถึงบ้านให้คุณรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันที เหตุผลก็คือการใส่เสื้อผ้าเปียกๆ ก่อให้เกิดการหมักหมม และอาจ             กลายเป็นแหล่งเชื้อราโดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้ และอาจทำให้คุณไม่สบายเป็นหวัด รวมไปถึงเป็นปอดบวมได้อีกด้วย
 3. แน่นอนที่ถุงเท้ากับรองเท้าย่อมเปียกฝน เพราะฉะนั้นให้คุณถอดออกทันที และควรเร่งทำให้แห้งแต่โดยเร็ว
 4. เราควรเรียนรู้ว่าการปล่อยให้เท้าเปียกชื้นนานๆ ส่งผลให้เท้าซีด และอาจลอกเป็นขุยได้
 5. คุณต้องเข้าใจว่าหากปล่อยให้เท้าชื้นนานๆ อาจจะทำให้ติดเชื้อราได้ง่าย ทั้งนี้ โรคเชื้อราที่พบบ่อยคือ ฮ่องกงฟุต โดย   เฉพาะที่บริเวณซอกนิ้วเท้า
 6. เมื่อกลับมาถึงบ้าน และเท้ายังเปียกชื้น อันเป็นผลมาจากการย่ำน้ำในซอยของหมู่บ้าน ให้คุณเร่งทำความสะอาดที่เท้า                                      
ด้วยการฟอกสบู่ จากนั้นก็ล้างด้วยน้ำสะอาด ต่อมาก็เช็ดเท้าให้แห้ง
 7. การใช้แป้งฝุ่นทาที่เท้าหลังทำความสะอาดจะช่วยให้เท้าสบายมากขึ้น

วิธีการดูแลเส้นผม 

 1. เมื่อกลับมาถึงบ้านให้คุณเร่งทำความสะอาดเส้นผม ด้วยการสระผมด้วยแชมพูสระผมหรือผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมไปเลย
 2. จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณอาจจะต้องใช้แชมพูสระผมที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา นั่นเป็นเพราะว่าการที่คุณเดินตากฝนนั้น อาจจะมีเชื้อโรคปะปนมา และการที่คุณไม่ยอมสระผมในค่ำคืนนั้นเลยเส้นผมของคุณอาจเกิดอาการได้รับเชื้อราและรังแคได้ เพราะฉะนั้นให้สระผมหลังจากที่คุณเพิ่งเดินตากฝน
 3. ที่สำคัญก็คือคุณไม่ควรนอน ในขณะที่เส้นผมยังเปียกน้ำฝนอยู่

           หลักการง่ายๆ ที่กล่าวมานี้จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตอย่างสบายๆ ไม่ต้องวิตกกังวลกับฝนที่กระหน่ำตกลงมานัก ทว่าวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ก็คือ การหลีกเลี่ยง ไม่เดินตากฝนนั่นเอง



เคล็ดง่าย ๆ ลดอาการปวดประจำเดือน

           1.ทำจิตใจให้เบิกบาน คลายความตึงเครียด มองโลกในแง่ดี ทำอารมณ์ให้ สดชื่นแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้จะช่วยปรับระบบฮอร์โมนในร่างกายให้สมดุลขึ้น

           2.ดื่มน้ำขิงอุ่น ๆ ขิงมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ และทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น

           3.ในระหว่างวันให้เพิ่มมื้ออาหารเล็ก ๆ เพราะผู้หญิงทั้งก่อนและระหว่างมีประจำเดือนนั้นมักรู้สึกต้องการของหวาน ควรเลือกเป็นพวกผลไม้ แซนด์วิชโฮลวีท แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้ง ไขมันสูง เช่น เค้ก ขนมหวาน น้ำตาลทรายขัดขาว เพราะอาจส่งผลให้เกิดอาการท้องอืดได้ 

           4.หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดอาการไม่สบายเนื้อสบายตัว ลดอาการปวดท้องประจำเดือน หรืออาจช่วยไม่ให้ปวดท้องประจำเดือนเลยก็เป็นได้